เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเม่นแคระ
สวัสดีครับวันนี้เราจะมาพูดถึงสัตว์เลี้ยงแปลกๆอีกชนิดหนึ่งที่นิยมเลี้ยงในบ้านเรานั่นก็คือ เม่นแคระ หรือ Hedgehogs นั่นเอง เสน่ห์ของเจ้าตัวเม่นแคระนี่อยู่ที่มีหนามแหลมและขี้เล่น ซึ่งในการ์ตูน เรื่อง Peter Rabbit ก็จะมีการ นำตัวเม่นแคระนี่เองไปเป็นตัวละควร ชื่อ Mrs. Tiggy-winkle เช่นเดียวกับในเกมส์ หลายๆเกมส์ที่มีตัวละครเอกเป็นเม่นแคระ เช่นเกมส์ Sonic นั่นเอง
เม่นแคระมีแหล่งที่มาหลักๆ อยู่ 2 ที่คือ ยุโรป(Brown European hedgehog) และ แอฟริกา (African pygmy hedgehog) แต่เนื่องจากในบ้านเรานิยมเลี้ยงสายพันธุ์เม่นแคระที่มาจากแอฟริกา ในที่นี้จะพูดถึงเม่นแคระที่มาจากแอฟริกา โดยลักษณะหน้าตาของเม่นแคระนั้นจะคล้ายกับหนูหรือตัวแรคคูน และมักจะทำจมูกกระดิกไปมา ลำตัวมีหนามแหลมปกคลุม ซึ่งจะมีสีสันแตกต่างกันออกไป เช่น ผิวหนังและสีขน เช่น ตัวสีดำ สีน้ำตาล สีขาว เช่นเดียวกับหนามบนลำตัว ซึ่งก็จะมีตั้งแต่สี ขาว สีน้ำตาล และดำ หรือ ผสมกัน ตามความหนาแน่นของหนาม และบางทีอาจจะเม่นที่มีลักษณะ ตาสีแดงและขนสีขาวได้เช่นกัน ซึ่งลักษณะนี้จะเป็น เม่นเผือก หรือขาวตาแดง (Albino)
โดยธรรมชาติแล้วเม่นแคระนั้นเป็นสัตว์ที่หากินในเวลากลางคืน แต่เมื่อถูกนำมาเป็นนำมาเลี้ยง เม่นแคระจึงมีการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม โดยสามารถใช้ชีวิตในเวลากลางวันและกลางคืนได้อย่างปกติ แต่ในเวลากลางคืนนั้นก็จะตื่นตัวมากกว่าเนื่องจากเป็นธรรมชาติของเม่นแคระและสายตาของเม่นแคระนั้นจะมองเห็นในเวลากลางคืนได้ดีกว่านั่นเอง
เม่นแคระนั้นเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างขี้ตกใจหวาดระแวงเมื่อผิดกลิ่น หรือสถานที่ เมื่อเม่นแคระตกใจนั้นมักจะทำตัวสะดุ้ง พองขน แสดงอาการตกใจอย่างชัดเจน ดังนั้นก่อนที่เราจะจับเม่นแคระขึ้นมาเล่นนั้นไม่ควรผลีผลามเอามือลงไปจับในทันที แต่ควรที่จะค่อยๆเอามือลงไปให้เม่นแคระดมกลิ่นก่อนเพื่อให้เม่นแคระนั้นรับรู้กลิ่นของเจ้าของ และหากผู้เลี้ยงเล่นกับเม่นแคระบ่อยๆจะช่วยให้เม่นแคระนั้นผ่อนคลายความหวาดระแวงลงได้เป็นอย่างดี
สำหรับเรื่องของที่อยู่อาศัยและอาหารของเม่นแคระนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากสำหรับมือใหม่ โดยที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดสำหรับเม่นแคระนั้นควรเป็นลักษณะของกล่องพลาสติก หรือตู้กระจก ไม่ควรเป็นกรง เพราะอาจจะทำให้ขาของเม่นแคระนั้นติดร่องของกรงได้ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บ ส่วนใหญ่ผู้เลี้ยงเม่นแคระในประเทศไทยนิยมใช้กล่องพลาสติก หรือ ตู้ปลา ที่เปิดข้างบนโล่ง และ กล่องที่เลี้ยงควรจะมีความสูงเพื่อกันไม่ให้เม่นแคระปีนหนีออกมา และภายในกล่องเลี้ยงเม่นแคระนั้นควรมีสิ่งปูรองพื้นที่นิยมใช้คือ ขี้เลื่อย ซึ่งสามารถซับกลิ่น ฉี่ และอึ ของเม่นแคระได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ควรจะเปลี่ยนขี้เลื่อยและทำความสะอาดกล่องเลี้ยงเม่นแคระอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกซึ่งจะส่งผลให้เม่นแคระเกิดปัญหาโรคผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ ระบบขับถ่ายตามมาได้อีก
เม่นแคระนั้นเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างขี้ตกใจหวาดระแวงเมื่อผิดกลิ่น หรือสถานที่ เมื่อเม่นแคระตกใจนั้นมักจะทำตัวสะดุ้ง พองขน แสดงอาการตกใจอย่างชัดเจน ดังนั้นก่อนที่เราจะจับเม่นแคระขึ้นมาเล่นนั้นไม่ควรผลีผลามเอามือลงไปจับในทันที แต่ควรที่จะค่อยๆเอามือลงไปให้เม่นแคระดมกลิ่นก่อนเพื่อให้เม่นแคระนั้นรับรู้กลิ่นของเจ้าของ และหากผู้เลี้ยงเล่นกับเม่นแคระบ่อยๆจะช่วยให้เม่นแคระนั้นผ่อนคลายความหวาดระแวงลงได้เป็นอย่างดี
สำหรับเรื่องของที่อยู่อาศัยและอาหารของเม่นแคระนั้นก็ไม่ได้ยุ่งยากสำหรับมือใหม่ โดยที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดสำหรับเม่นแคระนั้นควรเป็นลักษณะของกล่องพลาสติก หรือตู้กระจก ไม่ควรเป็นกรง เพราะอาจจะทำให้ขาของเม่นแคระนั้นติดร่องของกรงได้ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บ ส่วนใหญ่ผู้เลี้ยงเม่นแคระในประเทศไทยนิยมใช้กล่องพลาสติก หรือ ตู้ปลา ที่เปิดข้างบนโล่ง และ กล่องที่เลี้ยงควรจะมีความสูงเพื่อกันไม่ให้เม่นแคระปีนหนีออกมา และภายในกล่องเลี้ยงเม่นแคระนั้นควรมีสิ่งปูรองพื้นที่นิยมใช้คือ ขี้เลื่อย ซึ่งสามารถซับกลิ่น ฉี่ และอึ ของเม่นแคระได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ควรจะเปลี่ยนขี้เลื่อยและทำความสะอาดกล่องเลี้ยงเม่นแคระอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกซึ่งจะส่งผลให้เม่นแคระเกิดปัญหาโรคผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ ระบบขับถ่ายตามมาได้อีก
นอกจากนั้น ภายในกล่องเลี้ยงเม่นแคระเราควรหาอุปกรณ์หรือของเล่นใส่ไว้ให้เม่นแคระได้เล่น หรือหลบตัวด้วย เช่น โพรงไม้ ท่อพลาสติก ลูกบอล เศษผ้าเพื่อให้เม่นแคระซุกตัวนอนได้ ทำให้เป็นเหมือนโพรงในธรรมชาติ และ อาจจะหาถาดน้ำใส่ให้เค้าก็ได้เพราะเม่นเป็นสัตว์ที่ชอบเล่นน้ำ เหมือนกัน โดยเม่นบางตัวชอบที่จะให้เจ้าของอาบน้ำให้บ่อยๆ และบางตัวมีความสามารถในการว่ายน้ำด้วย แต่ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าอาจจะทำให้สิ่งปูรองเปียกและทำให้หมักหมมได้ อาจจะต้องการความเอาใจใส่เป็นพิเศษ ดังนั้นจึงต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของผู้เลี้ยงแต่ละคนว่ามีเวลาดูแลขนาดไหน
ส่วนเรื่องอาหาร เม่นแคระจัดเป็นสัตว์ในตระกูล Insectivore ซึ่งเป็นสัตว์ในกลุ่มที่กินแมลงเป็นอาหาร เม่นแคระเป็นสัตว์ที่มีกระเพาะอาหารแบบ กระเพาะเดี่ยว และทานทั้งเนื้อและพืช (Monogastric omnivores )โดยอาหารธรรมชาติของเม่นแคระคือสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังเช่นแมลงหรือหนอนต่างๆ และ กบ กิ้งก่า หรือหนู และไข่ รวมถึง ผลไม้ และเห็ด แต่โดยส่วนใหญ่แล้วอาหารที่เรานิยมให้เมื่อเรานำเค้ามาเลี้ยงก็คือ อาหารแมว โดยสามารถให้ได้ทุกวัน และอาจจะเสริมผักให้ได้โดยสามารถโรยวิตามิน และแคลเซี่ยมเสริม ได้ และอาจจะเสริมแมลง หรือหนอนนกให้ได้ โดย ให้ สี่ถึงห้าตัวต่อ ครั้ง สามถึงสี่ครั้งต่อสัปดาห์ และไม่ควรให้เยอะจนเกินไปเนื่องจากว่าจะทำให้อ้วนจนเกินไปได้และจะทำให้มี โรคอ้วนในเม่นแคระตามมา
หลักการในการให้อาหาร ควรจะให้ในช่วงเย็นหรือกลางคืน มากกว่าช่วงเช้า แต่ ก็สามารถฝึกและปรับให้เม่นแคระทานอาหารในช่วงกลางวันได้เช่นกัน และอาจจะ เอาอาหารบางส่วนซ่อนไว้ใน สิ่งปูรอง เพื่อให้เม่นแคระ ได้แสดงพฤติกรรมทางธรรมชาติ และออกกำลังกายไปด้วย ส่วนน้ำที่ให้เม่นทาน ควรจะเป็นน้ำสะอาดและฝึกให้เม่นสามารถทานจากขวดน้ำเช่นเดียวกับหนูหรือกระต่ายได้
ขอบคุณแหล่งที่มาจาก :
board.thaipetonline.com
mammalzvn.blogspot.com
mammalzvn.blogspot.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น